The Federal Classic
Bangkok, Thailand
กล่าวกันว่า คนที่ชื่นชอบเพลงคลาสสิค เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และมีโลกส่วนตัวที่งดงาม มีความเก่ง รอบคอบ และยึดมั่นในความสมบูรณ์แบบ หรือที่เรียกว่า Perfectionist นั่นเอง เช่นเดียวกับในงานออกแบบและตกแต่งภายใน กล่าวกันว่าคนที่ชอบงานในสไตล์คลาสสิค มักจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ที่เพิ่มขึ้นมา คือความรักครอบครัว ดังนั้น คนในครอบครัวมักจะอยู่กันอย่างปรองดอง และมีความสุข
โครงการออกแบบและตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัยหลังนี้ ได้รับโจทย์ให้ทำงานในสไตล์คลาสสิค ซึ่ง Interior Designer ของบาริโอ ก็ไม่พลาดที่จะนำเอาสไตล์ในยุคศตวรรษที่ 19 มารังสรรค์ ให้มีความงามแบบคลาสสิค แต่มีการปรับปรุงให้เข้ากับ Space และ Function ของการใช้สอยในปัจจุบัน
สไตล์งานออกแบบที่เลือกใช้ในโครงการนี้ ได้แก่ งานในสไตล์ Federal Period ซึ่งเป็นรูปแบบย่อยของยุค Neoclassic ของยุโรปที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 (ประมาณปี ค.ศ.1800-1815) ในประเทศฝรั่งเศส อันเป็นช่วงเวลาที่ Napolean I ได้ขึ้นปกครอง โดยรูปแบบ Empire ได้แตกหน่อและแยกเป็นสไตล์ย่อยในยุโรป อีกหลายสไตล์ เช่น Biedemeier Style ในแถบเยอรมัน หรือ Regency Style ในอังกฤษ
Federal Style เป็นอีกสไตล์งานออกแบบหนึ่ง ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Regency Style จากคนอังกฤษที่ไปตั้งรกรากในประเทศอเมริกา แต่รูปแบบจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยมีความเรียบง่าย โปร่ง เบา และเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า รวมทั้งลดรายละเอียดของงานแกะสลักลง รวมทั้งใช้รูปทรงเรขาคณิตในการตกแต่งแทน ทำให้งาน Federal เป็นต้นแบบงานคลาสสิค ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมากที่สุดกว่ายุคอื่นๆ
เริ่มจากห้องรับแขก ที่ Interior Designer จัดวาง Federal Style Sofa อันเป็นเอกลักษณ์ของยุคนี้ ที่ดูโปร่ง เบา แต่มีการปรับปรุงให้นั่งสบายขึ้น ด้วยเบาะที่หนา นุ่ม พร้อม Detail ที่ขาเก้าอี้ ดูหรูหราขึ้นด้วยงานเขียนสีทองเป็นลวดลาย ในห้องที่มีผนังเดินคิ้วตกแต่งแบบคลาสสิค ย้อมสี Ivory ดูนวลตา
นอกจากนี้ ฝ้าเพดานยังมีการ Paint ด้วยแผ่นทอง รับกับโคม Chandelier แบบทองเหลืองยุคโบราณ พร้อมผ้าม่านที่มีความหนาหนัก และประดับด้วย Festoon Drapes ทำให้ห้องนี้ ดูสวยงาม และหรูหรา อย่างที่ยากจะหางานสไตล์ไหนมาเทียบเคียง
ผนังฝั่งตู้ทีวี ก็ได้รับการออกแบบ โดยนำเอา Showcase ในยุคนั้น มาปรับปรุงให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น และเลือกใช้ Wallpaper ที่มีริ้วทองเป็น Backing ให้กับทีวี และรับกับฝ้าเพดานด้านบน เมื่อรวมกับซุ้มโค้ง (Arch) ที่ตกแต่งด้วยบัวโค้งสีขาว เพิ่มความคลาสสิคให้กับห้องเป็นอย่างมาก
Dining Room มุมรับประทานอาหาร ที่มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง กับเก้าอี้แบบ Oval back dining Chair ที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น
Family Room จะเป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัว ที่แยกออกมาอีกฝั่งหนึ่งของบ้าน โดยจะใช้เป็นที่รวมของสมาชิกในบ้านยามค่ำ หรือใช้แยกเป็นส่วนตัว ยามที่มีแขกคนสำคัญมาเยี่ยมเยือนที่ในห้องรับแขกหลักก็ได้
งานตกแต่งในส่วน Family Room นี้ จะลดรูปแบบงานตกแต่งลง แต่ยังคงความคลาสสิคจางๆ โดยเลือกใช้โซฟารูปตัวแอล มาจัดวางริมหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงผ่านเข้ามาได้มาก และตกลงบนผนังที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายสีมะกอก (Olive) ที่ตอกหมุดเรียงเป็นลายเส้นตกแต่ง
เมื่อขึ้นมาบนโถงหน้าห้องชั้นสอง เจ้าของบ้านต้องการจัดวางพระพุทธรูป เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของบ้าน ดังนั้น ทีมออกแบบจึงได้ออกแบบตู้หนังสือที่ตกแต่งตามสไตล์ โดยมี Arch โค้งด้านบน เพื่อใช้ประดิษฐานองค์พระประธานประจำบ้าน ได้อย่างลงตัว
รูปแบบการตกแต่งภายในของ Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่ จะเน้นความหรูหรามากขึ้น โดยไปหยิบยืมรูปแบบงานตกแต่งของ Regency ของอังกฤษ ที่เป็นต้นแบบของ Federal Style มาใช้ ดังจะสังเกตุได้จากหัวเตียงที่ประดับประดาด้วย Motif ตกแต่ง และเส้นสายสีทองบนผนังหัวเตียง รับกับผ้าม่าน ตัดกับผนังสี Ivory ดูสะดุดตามากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ในห้องนี้ จะผสมผสานระหว่างเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ซึ่งจะเห็นได้จากโต๊ะข้างเตียง และโต๊ะทำงาน ในขณะที่ผนังทีวี จะออกแบบให้เลียนแบบเตาผิงศตวรรษที่ 19 ในประเทศอเมริกา
ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งตัวในห้องนอนใหญ่นี้ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยหน้าบานตู้เสื้อผ้าทั้งหมดจะเป็นกระจกเงา เพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวห้อง แต่มีงานไม้ฉลุสีเข้มมาคาดประดับ และด้านข้างก็จะมีโต๊ะแต่งตัว ที่เด่นด้วยกรอบกระจกสีทอง และโต๊ะลิ้นชักสำหรับจัดเก็บของใช้กระจุกกระจิกได้เป็นอย่างดี
ห้องสุดท้าย ที่จะกล่าวถึงคือห้องทำงาน ที่ทีมงานออกแบบของบาริโอ ได้ออกแบบตู้หนังสือ ที่มีบานเลื่อนกระจกป้องกันฝุ่น และมีชั้นที่มีความสูงแตกต่างกัน เพื่อประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกัน
แม้ว่าบ้านหลังนี้ จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่หากได้รับการวางผังที่ดี และมีทีมออกแบบที่เข้าใจในสไตล์อย่างจริงจัง พร้อมเอาใจใส่อย่างรอบคอบ ก็สามารถทำให้บ้านหลังนี้ มีความงดงามและลงตัวในสไตล์คลาสสิค ที่หรูหราได้ นอกจากนี้ ด้วยรูปแบบการทำงานแบบ Turn Key Service ที่บาริโอ ให้บริการแบบครบวงจร ทั้งออกแบบ ผลิต และติดตั้ง ภายในบริษัทเดียวกัน และทีมงานเกือบ 100 คน ทำให้งานออกแบบทุกโครงการ เป็นจริงได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน
หากท่านสนใจจะใช้บริการออกแบบและตกแต่งภายใน แบบครบวงจร บริษัท บาริโอ จำกัด มีบริการ Quintessentially Design Service (QDS) ที่ให้บริการสำหรับท่านที่ต้องการการทำงานที่เอาใจใส่สูงสุด เพื่อสร้างรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และบริการ Turn Key Service (TKS) สำหรับท่านที่ต้องการควบคุมงบประมาณ ซึ่งท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาจากนักออกแบบมืออาชีพ ได้ฟรี!!
นอกจากผลงานออกแบบที่มีความลงตัวแบบนี้แล้ว บาริโอ ยังมีผลงาน ออกแบบตกแต่งภายในคอนโดมิเนียม หลังอื่นๆ ให้ได้ชมกันใน Portfolio หรือ Design By Bareo และหากสนใจให้ทีมงานของ บริษัท บาริโอ จำกัด เข้ามาช่วยออกแบบและตกแต่งบ้านให้ดูดี และใช้งานได้อย่างมีความสุขนานนับสิบปี
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร 02 408-1341 – 44 และ 083-899-9989 line ID : @bareo ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น.