The Extraordinary Penthouse
Bangkok, Thailand
ผลงานออกแบบตกแต่งภายใน ที่ชนะเลิศการประกวดระดับ International จาก International Property Awards ปี 2021-22 ในสไตล์ Classic Chic ที่ผสานความ Classic กับ Modern Italian Design อย่างลงตัว พรั่งพร้อมด้วย ลูกเล่นมากมาย
Penthouse สุดหรูนี้ ตั้งอยู่บนอาคารที่พักอาศัย ที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าของบ้าน ชาวต่างชาติ ได้ซื้อไว้เพื่อใช้พักผ่อน ในเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
และ ด้วยความที่เป็นบ้านพักตากอากาศ เจ้าของบ้านจึงต้องการออกแบบให้ Penthouse หลังนี้ ใช้เป็น Gallery ส่วนตัว เพื่อเก็บงานศิลปะต่างๆ รวมไปถึงมีส่วนสันทนาการ สำหรับเชิญเพื่อนๆ มาสังสรรค์กันเป็นประจำ
เริ่มตั้งแต่ Private Lift Hall ซึ่งเจ้าของบ้าน ต้องการตกแต่ง ให้เป็นงาน Classic ที่ทันสมัยขึ้น ทาง Interior Designer ของ Bareo จึงได้เพิ่มซุ้มทองเหลืองตกแต่ง เพื่อสร้าง Contrast และเพิ่มความน่าสนใจ ให้กับแขกผู้มาเยือน
จาก Private Lift Hall ก็จะผ่านประตูทางเข้าใหญ่ ที่เจ้าของบ้าน ต้องการให้เป็นประตูบานคู่ และสามารถเปิดโล่งได้ เพื่อให้มีการเชื่อมต่อไป จนถึงโถง Foyer ที่จะมี Carousel Sofa หรือโซฟากลม ที่นั่งได้ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งเจ้าของบ้าน ได้นำเข้ามาจากอิตาลี จัดวางอยู่กึ่งกลางห้อง ซึ่ง Foyer นี้จัดว่าเป็นจุด Transition ของบ้านจุดแรก โดยห้องนี้ นอกจากจะต่อกับ Lift Hall แล้ว ยังสามารถเดินต่อไปยังส่วน Dining Room, Massage Room และ Library ของบ้านได้อีกด้วย
ซึ่งผนังตกแต่งของโถง Foyer นี้ ได้รับการออกแบบมาอย่างพิเศษ จะมี Function ซ่อนอยู่ เช่น ตู้สำหรับเก็บรองเท้าจำนวน 200 คู่ พร้อมบันไดแม่เหล็กไฟฟ้า ที่สามารถกางออกมา เพื่อเข้าถึงชั้นเก็บรองเท้าชั้นบนสุดได้ หรือประตูบานซ่อน ที่เปิดไปยัง Massage Room และประตูบานเลื่อนคู่ที่เก็บซ่อนเข้าไปในผนังได้ (Pocket Door) ที่สามารถต่อไปยัง Library สุดหรูได้อีกด้วย
Library เป็นส่วนรับรองแขก ของเจ้าของบ้าน โดยในห้องนี้ สามารถรับรองแขกได้มากถึง 12-15 ท่านเลยทีเดียว โดยจะมีโต๊ะเกมส์ ที่อยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ สำหรับให้เจ้าของบ้านและแขก ได้เพลิดเพลินไปพร้อมกับ การชมทิวทัศน์ส่วนโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในขณะที่แขกท่านอื่นๆ สามารถชมทีวี หรือร้อง Karaoke บนโซฟายาว 4 เมตร หรือจะแยกไปนั่งอ่านหนังสือที่เรียงรายอยู่เต็มชั้นหนังสือในห้องก็ได้
จุดเด่นของ Library นี้ คือมีประตูซ่อน อยู่ท่ามกลางชั้นหนังสือ ซึ่งเมื่อเปิดออก เจ้าของบ้านสามารถเดินไปถึงส่วนทานอาหารขนาด 10 ที่นั่งได้โดยสะดวก โดยในส่วนทานอาหารนี้ จะจัดวางโต๊ะกลมขนาดใหญ่ ที่นำเข้าจากอิตาลีเช่นกัน ซึ่งจะมี Lazy Susan หรือถาดหมุนที่ฝังอยู่บน Top โต๊ะได้เรียบสนิท เพื่อให้ทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย
ติดกับโต๊ะทานอาหาร ก็จะเป็น Pantry ที่เจ้าของบ้านสามารถปรุงอาหารง่ายๆ ได้ พร้อมกับเคาน์เตอร์เรืองแสง ที่ทำจากหิน Alabaster โดยตัวเคาน์เตอร์นี้ สามารถเลื่อนเข้าออกได้ เพื่อให้สะดวกต่อการ Transform รูปแบบของห้อง
เนื่องด้วยส่วนทานอาหารนี้ จะเป็นส่วนโถงใหญ่ของบ้าน ซึ่งจะมี Living Area อยู่ถัดเข้าไปด้านใน ดังนั้น เจ้าของบ้านจึงต้องการให้มี Partition สำหรับแบ่งพื้นที่ทานอาหาร และ Living ออกจากกันในบางโอกาส ดังนั้น ผนังที่กั้นระหว่างทั้งสองส่วนนี้ จึงทำหน้าที่เป็นผนังสำหรับเก็บ Pocket Door ในตัวอีกด้วย
และเพื่อให้เจ้าของห้อง สามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้ ทาง Designer จึงได้เพิ่มลูกเล่น เป็นบานเลื่อนขนาดยักษ์ 3.80 x 6.00 เมตร มีน้ำหนักมากกว่า 400 กก. ซึ่งสามารถเลื่อนสลับไปมา ระหว่างห้องอาหาร และ Living Area ได้ ซึ่งเมื่อผนังนี้ เลื่อนไปทางห้องทานอาหาร ก็จะปิดส่วน Pantry และโชว์ภาพเขียนแบบ Mixed Media ของศิลปินชื่อดัง
ซึ่งเมื่อเลื่อนผนังไปแล้ว ส่วน Living Area ก็จะเห็นชั้นโชว์ที่ลูกค้าจัดวางของสะสมส่วนตัวต่างๆ ได้อีกด้วย
ถัดจากส่วน Living Area ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่เจ้าของบ้าน ซ่อนผนังตกแต่ง ที่จะเปลี่ยนเป็นบานประตู เพื่อกั้นส่วนนี้ได้ โดยในพื้นที่ส่วนตัวนี้ จะประกอบไปด้วยห้องนอน 3 ห้อง ซึ่งแต่ละห้อง ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป และทั้งสามห้อง เป็นห้องนอนแบบ En suite ทั้งหมดอีกด้วย
สำหรับผลงานการออกแบบแต่งภายในห้องนอนทั้งสามห้อง จะอยู่ใน The Extraordinary Penthouse II ที่มีรายละเอียดของการออกแบบ สวยงามและน่าประทับใจเช่นเดียวกับส่วนหน้า
และนอกจากนี้ บริษัท บาริโอ จำกัด ยังมีผลงานออกแบบและตกแต่งภายในที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ และได้รับการเสนอชื่อในระดับภูมิภาค ที่สามารถติดตามได้ที่ The Lanna Ecstasy ที่เป็น Penthouse หรูในจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
Share This Post
Tag:
CONTENT RELATED
