
- Bareo
- พฤษภาคม 2025
5 เทคนิคออกแบบตกแต่งภายใน
ห้องนั่งเล่นให้สวยปังมีสไตล์
ห้องนั่งเล่นเปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน เป็นพื้นที่ศูนย์กลางที่สมาชิกในครอบครัวใช้เวลาร่วมกัน ทำกิจกรรมต่างๆ และยังเป็นด่านแรกในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน การออกแบบตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นให้ดูดี สวยงามน่าอยู่ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงรสนิยม บ่งบอกไลฟ์สไตล์ และสร้างบรรยากาศแห่งความสุขและความผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
Bareo ในฐานะบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมายาวนานกว่า 34 ปี เข้าใจดีถึงความสำคัญของการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและฟังก์ชันการใช้งาน วันนี้ เราจึงขอนำเสนอ 5 เทคนิคออกแบบตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นให้ดูดีมีสไตล์ ที่ผ่านการกลั่นกรองจากประสบการณ์ตรงของทีมงานมืออาชีพ เพื่อเป็นไอเดียให้คุณนำไปปรับใช้ หรือเป็นแนวทางในการเริ่มต้นพูดคุยกับนักออกแบบตกแต่งภายในคู่ใจของคุณ

1. กำหนดสไตล์ที่ใช่และการวางผังที่ลงตัว
ก่อนจะลงมือเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือทาสีผนัง สิ่งแรกที่ควรทำคือการกำหนด สไตล์การออกแบบตกแต่งภายในที่คุณชื่นชอบและสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น (Modern) ที่เน้นความเรียบง่าย เส้นสายคมชัด, สไตล์มินิมอล (Minimal) ที่เน้นความน้อยแต่มาก, สไตล์ลักซ์ชัวรี่ (Luxury) ที่หรูหรา โอ่อ่า, สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary) ที่ผสมผสานความทันสมัยและความคลาสสิก หรือสไตล์อื่นๆ การมีสไตล์ที่ชัดเจนจะเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางการตัดสินใจในขั้นตอนต่อๆ ไป
เมื่อได้สไตล์ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ วางผัง (Layout) ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งานและความรู้สึกโปร่งสบายภายในห้อง การวางผังที่ดีควรคำนึงถึง
- เส้นทางสัญจร (Traffic Flow) กำหนดทางเดินหลักภายในห้องให้สะดวก ไม่ควรมีเฟอร์นิเจอร์ขวางทางเดิน
- จุดศูนย์กลาง (Focal Point) กำหนดจุดเด่นของห้อง เช่น ผนังทีวี เตาผิง หรือหน้าต่างบานใหญ่ แล้วจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลัก (เช่น โซฟา) ให้หันเข้าหาจุดนั้น
- การจัดกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Grouping) จัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นกลุ่มเพื่อส่งเสริมการสนทนา เช่น จัดวางโซฟาและอาร์มแชร์ล้อมรอบโต๊ะกลาง
- ขนาดและสัดส่วน (Scale & Proportion) เลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ห้องเล็กไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เทอะทะจนเกินไป
การวางแผนผังอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยให้การออกแบบตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นของคุณสมบูรณ์แบบและใช้งานได้จริง ซึ่งหากคุณไม่แน่ใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการรับออกแบบตกแต่งภายในอย่าง Bareo จะช่วยให้คุณได้ผังห้องที่ลงตัวที่สุด

2. เลือกใช้โทนสีอย่างชาญฉลาด
สีมีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์และความรู้สึก รวมถึงการรับรู้ขนาดของพื้นที่ การเลือกใช้โทนสีที่เหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญของการ ออกแบบตกแต่งภายใน ห้องนั่งเล่นให้ดูดี
- กฎ 60-30-10 เป็นหลักการที่นิยมใช้ในการกำหนดสัดส่วนของสีภายในห้อง
- 60% สีหลัก (Dominant Color) มักใช้กับพื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น สีผนัง หรือสีของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ควรเป็นสีกลางๆ หรือสีโทนอ่อนเพื่อให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น
- 30% สีรอง (Secondary Color) ใช้กับเฟอร์นิเจอร์รอง ผ้าม่าน หรือพรม ควรเป็นสีที่เข้ากันได้ดีกับสีหลัก แต่มีความเข้มหรือแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มมิติให้กับห้อง
- 10% สีเน้น (Accent Color) เป็นสีที่โดดเด่น ใช้สำหรับของตกแต่งเล็กๆ เช่น หมอนอิง โคมไฟ งานศิลปะ หรือของประดับ เพื่อสร้างจุดสนใจและเพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวา
- จิตวิทยาของสี เลือกใช้สีที่ส่งผลต่ออารมณ์ตามต้องการ เช่น สีฟ้าหรือเขียวให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย, สีเหลืองหรือส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น สดใส, สีเอิร์ธโทน (น้ำตาล ครีม เทา) ให้ความรู้สึกมั่นคง เป็นธรรมชาติ
- การใช้สีเพื่อปรับการรับรู้ ใช้สีอ่อนทาผนังเพื่อให้ห้องเล็กดูกว้างขึ้น หรือใช้สีเข้มทาผนังด้านใดด้านหนึ่งเพื่อสร้างจุดสนใจหรือทำให้ห้องที่กว้างใหญ่ดูอบอุ่นขึ้น
- การเลือกโทนสีที่ใช่ ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งทีม ออกแบบตกแต่งภายใน มืออาชีพสามารถให้คำแนะนำและสร้างสรรค์ Palette สีที่ลงตัวกับสไตล์และบุคลิกของคุณได้
การเลือกโทนสีที่ใช่ ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งทีมออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพสามารถให้คำแนะนำและสร้างสรรค์ Palette สีที่ลงตัวกับสไตล์และบุคลิกของคุณได้

3. จัดแสงสว่างสร้างบรรยากาศ
แสงสว่างเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อบรรยากาศและการใช้งานของห้องนั่งเล่น การออกแบบตกแต่งภายในที่ดีควรมีการวางแผนเรื่องแสงอย่างเป็นระบบ โดยใช้หลักการ Layering Light หรือการจัดแสงหลายระดับชั้น
- แสงสว่างโดยรอบ (Ambient Lighting) เป็นแสงหลักที่ให้ความสว่างโดยรวมแก่ห้อง มักมาจากโคมไฟเพดาน (Ceiling Lights), ไฟดาวน์ไลท์ (Downlights) หรือโคมไฟระย้า (Chandelier) ควรเลือกใช้แสงที่นุ่มนวล สบายตา และสามารถปรับหรี่แสง (Dimmable) ได้ เพื่อควบคุมบรรยากาศ
- แสงสว่างเพื่อการใช้งาน (Task Lighting) เป็นแสงที่เน้นเฉพาะจุดสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น โคมไฟตั้งพื้นข้างโซฟาสำหรับอ่านหนังสือ หรือโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับทำงานเล็กๆ น้อยๆ
- แสงสว่างเพื่อเน้น (Accent Lighting) ใช้เพื่อสร้างจุดสนใจ เน้นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม หรือขับเน้นงานศิลปะ ของตกแต่ง เช่น ไฟส่องภาพ (Picture Lights), ไฟซ่อนฝ้า (Cove Lighting) หรือสปอตไลท์ (Spotlights)
- แสงธรรมชาติ (Natural Light) พยายามเปิดรับแสงธรรมชาติให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางวัน โดยอาจใช้ผ้าม่านโปร่งเพื่อกรองแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว
การผสมผสานแสงประเภทต่างๆ อย่างลงตัวจะช่วยสร้างมิติ ความลึก และบรรยากาศที่หลากหลายให้กับห้องนั่งเล่นของคุณ ทำให้ห้องดูน่าสนใจและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกช่วงเวลา

4. เลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เหมาะสม
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเปรียบเสมือนเครื่องประดับที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับห้องนั่งเล่น การเลือกสรรอย่างพิถีพิถันเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบตกแต่งภายใน
- ขนาดและสัดส่วน เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ควรวัดขนาดพื้นที่และวางแผนการจัดวางก่อนตัดสินใจซื้อ
- ฟังก์ชันและสไตล์ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงและมีดีไซน์ที่สอดคล้องกับสไตล์โดยรวมของห้อง เช่น หากครอบครัวใหญ่ อาจต้องการโซฟาขนาดใหญ่หรือโซฟาเข้ามุม (Sectional Sofa)
- คุณภาพและวัสดุ ลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักที่มีคุณภาพดี ทนทาน และใช้วัสดุที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เช่น หากมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง อาจเลือกใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย
- สร้างจุดเด่น (Focal Point) อาจเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเด่น (Statement Piece) เช่น โซฟาสีสดใส, อาร์มแชร์ดีไซน์เก๋ หรือโต๊ะกลางที่มีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างจุดดึงดูดสายตา
- ผสมผสาน Texture การใช้พื้นผิว (Texture) ที่หลากหลาย เช่น ผ้ากำมะหยี่ หนัง ไม้ โลหะ หรือหวาย จะช่วยเพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับการออกแบบตกแต่งภายใน
- ของตกแต่ง (Decor) เลือกของตกแต่ง เช่น หมอนอิง พรม ผ้าม่าน งานศิลปะ กระจกเงา หรือของสะสม ที่ช่วยเสริมสไตล์และบ่งบอกความเป็นตัวตน แต่ระวังอย่าตกแต่งมากเกินไปจนดูรก
หากคุณต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับพื้นที่ของคุณ บริการ รับออกแบบตกแต่งภายใน มักจะรวมถึงการออกแบบและสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ (Built-in หรือ Custom-made) เพื่อให้ได้ขนาดและฟังก์ชันที่พอดีที่สุด

5. เพิ่มพื้นที่สีเขียวและสัมผัสธรรมชาติ
การนำองค์ประกอบจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการ ออกแบบตกแต่งภายใน กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามสดชื่น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตใจและคุณภาพอากาศอีกด้วย
- ต้นไม้ในร่ม (Indoor Plants) เลือกต้นไม้ฟอกอากาศหรือต้นไม้ประดับที่มีรูปทรงและขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ วางไว้ตามมุมห้อง บนชั้นวาง หรือแขวนประดับ จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวาและความรู้สึกผ่อนคลาย
- วัสดุธรรมชาติ (Natural Materials) การใช้วัสดุ เช่น ไม้ หิน หรือหวาย ในส่วนประกอบต่างๆ ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
- เปิดรับวิวภายนอก (Connect with Outdoors) หากห้องนั่งเล่นของคุณมีหน้าต่างหรือประตูที่มองเห็นสวนหรือวิวธรรมชาติ พยายามออกแบบให้สามารถเปิดรับมุมมองนั้นได้อย่างเต็มที่ อาจใช้ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ หรือจัดวางที่นั่งใกล้หน้าต่าง
การผสมผสานสัมผัสจากธรรมชาติ จะทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกสงบและเติมพลังได้อย่างแท้จริง

การออกแบบตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นให้สวยงามลงตัวและตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ แม้ 5 เทคนิคที่เรานำเสนอไปจะเป็นแนวทางที่ดีเยี่ยม แต่การมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ที่ Bareo เรามีทีมงานนักออกแบบและช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยประสบการณ์กว่า 34 ปี ในการรับออกแบบตกแต่งภายในบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม และโครงการต่างๆ เราพร้อมรับฟังความต้องการของคุณ แปลงไอเดียให้กลายเป็นภาพจริง และดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การเลือกสรรวัสดุ ไปจนถึงการก่อสร้างและตกแต่ง เพื่อสร้างสรรค์ห้องนั่งเล่นในฝันที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง

หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในเลือก บริษัท บาริโอ จำกัด เรามีประสบการณ์ออกแบบตกแต่งภายในบ้านหรู ออกแบบตกแต่งภายในคอนโด ออกแบบตกแต่งภายในสถานพยาบาล ออกแบบตกแต่งภายในอาคารสำนักงานและร้านอาหาร ด้วยประสบการณ์ออกแบบตกแต่งภายในกว่า 34 ปี เราพร้อมให้บริการออกแบบตกแต่งภายในมาตรฐานสูงจากทีมงานมืออาชีพ
รับชมผลงานออกแบบตกแต่งภายในของ BAREO ได้ที่ Portfolio หรือสนใจบริการออกแบบตกแต่งภายในสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร 02 408-1341 – 44 และ 083-899-9989 line ID : @bareo ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น.